1 มิถุนายน 2023

urnews.co ยู อาร์ นิว

คลังข่าวสารบนพื้นที่ EEC

คนละครึ่ง ปิดฉาก! คลังฯ ชี้ เศรษฐกิจฟื้นแล้ว


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปิดมาตรการ “คนละครึ่ง” ไม่มีแล้ว ชี้ว่าเพราะสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันฟื้นตัวแล้ว ยังอุบมาตรการแพ็คปีใหม่ ด้านเอกชนยอมรับเข้าใจได้ เหตุต้องใช้เงินภาษีมาออกมาตรการ พร้อมจี้รัฐเร่งดึงต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย

ที่มา : PPTVHD36

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในงานสัมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 40 ระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ถือว่ากลับมาฟื้นตัวแล้ว ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น การบริโภค การใช้จ่ายที่กลับมาต่อเนื่อง ดังนั้นวันนี้จึงไม่จำเป็นต้องพึ่งพามาตรการ “คนละครึ่ง” อีกต่อไป เนื่องจากไม่มีความจำเป็นแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่กระทรวงการคลังเน้นย้ำคือการแก้ไขปัญหาหนี้สินต่างๆ ของประชาชนที่ยังต้องเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่แพ็คมาตรการของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ตอนนี้ยังจัดทำไม่เสร็จ ขอให้อดใจรอดูก่อน

“วันนี้การใช้จ่ายของประชาชน อัตราการใช้จ่ายแม้กระทั่งในไตรมาส 3 ตัวเลขออกมาค่อนข้างดี เพราะฉะนั้นความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องเข้าไปสนับสนุนในเรื่องของโครงการที่ออกทางช่วยอย่างนี้ ก็อาจจะลดน้อยลงไปนะครับ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าว

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปีหน้า นายอาคม เชื่อว่า การที่ทั่วโลกเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ย่อมกระทบกับประเทศไทยด้วย แต่โอกาสของไทยมีมากกว่า ดังนั้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยต้องมีแรงส่ง ทั้งการบริโภควนประเทศที่ค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้น ต่อมาการส่งออกก็ยังดีต่อเนื่อง แรงส่งต่อมารัฐบาลก็ทำงบขาดดุลอยู่ หลังจากนี้จึงต้องลงทุนมากขึ้น เพื่อตอนเศรษฐกิจฟื้นตัวประเทศไทยจะได้โครงสร้างพื้นฐานที่ดีไว้รองรับ จึงวางแผนการออกบอนด์ หรือตราสารหนี้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่เป็นโครงการสีเขียว มูลค่าราว 5.5 ล้านล้านบาท ในช่วง 8-10 ปี

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การยกเลิกมาตรการคนละครึ่งถือว่าเข้าใจได้ เพราะการออกมาตรการใดก็ตาม ย่อมมีภาระต่อภาคการคลัง ต้องนำเงินภาษีของประชาชนมาอุดหนุน แต่ที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนหลังจากนี้ คือ การดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ด้วยการลดข้อจำกัดต่างๆ ลงไป เช่น การเปิดให้ต่างชาติสามารถซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยได้ และใช้โอกาสในพื้นที่ อีอีซี ต่อยอดการจัดประชุมเอเปกที่ผ่านมาให้เกิดประโยชน์สูงสุด